วิธีดูแลล้อรถเข็นของท่าน ยามเข้าฤดูฝน

ช่วงเวลาต้นมิถุนายนนี้ ยาวไปจนถึงประมาณเดือนตุลาคมก็จะเป็นช่วงฤดูฝนที่หลายคนชอบ และไม่ชอบกันแล้วครับ ฝนย่อมเป็นอุปสรรคที่ทำให้ใครหลายคนต้องใช้ความระมัดระวังในการเดินทางอยู่เสมอ และปัญหานี้หนีไม่พ้นการใช้ล้อรถเข็น มันเกี่ยวข้องกันยังไง? อย่างที่ทุกท่านทราบว่าในฤดูฝนนี้ปัญหาใหญ่ที่สุดก็คือฝนตกในระหว่างที่เราทำงาน ซึ่งน้ำเป็นสิ่งที่ไม่ถูกกับการทำงานอุตสาหกรรมซึ่งมีวัสดุอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้ไฟฟ้าและโลหะ และในกรณีของล้อรถเข็นทั่วไปหากต้องถูกใช้งานในช่วงเวลานี้ อาจมีความเสี่ยงที่จะเกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ต่างๆดังนี้

1. เพิ่มความเสี่ยงต่อของที่บรรทุก

ในช่วงเวลาเช่นนี้ที่พื้นนอกอาคารส่วนใหญ่มีสภาพชื้นแฉะ ย่อมส่งผลต่อการใช้รถเข็นได้เนื่องจากพื้นมักมีสภาพลื่นและเปียกมีน้ำเจิ่งนอง แม้ว่าความเร็วในการเข็นด้วยมือจะไม่สูงอยู่แล้วเพราะเท่ากับความเร็วในการเดิน/วิ่งของผู้เข็น แต่ด้วยสภาพพื้นที่ไม่เอื้อต่อการเข็นอาจทำให้เกิดเหตุไม่คาดฝันกับของที่ท่านบรรทุกอยู่เช่น ของบรรทุกที่ต้องใช้ความระมัดระวังตกแตก, อุปกรณ์อิเล็คโทรนิคเสียหาย ทำให้เกิดความสูญเสียต่อทรัพย์สินและเพิ่มค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ซึ่งแท้จริงแล้วสามารถป้องกันได้

2. เพิ่มความเสี่ยงต่อผู้เข็น

เนื่องด้วยสภาพพื้นที่ไม่เอื้อต่อการเข็น ทำให้ผู้เข็นต้องใช้สมาธิและความระมัดระวังมากขึ้นในการเข็นของมีค่า และการที่เราเพ่งสมาธิในการเข็นมากขึ้นย่อมทำให้เรามีการระแวดระวังต่อสิ่งรอบข้างน้อยลง โดยในสภาพแวดล้อมการทำงานอย่างเช่นในโรงงานอุตสาหกรรมนี้ หากเรามีความระมัดระวังน้อยลง ก็อาจส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงที่ไม่ได้คาดคิดเช่นเดียวกัน หากรถเข็นที่ใช้สะบัดไปมาขณะเข็นและของที่เข็นต้องใช้ความระวังมาก ลำพังเพียงควบคุมรถเข็นให้วิ่งตรงยังยากเลย แล้วเราจะเหลือสมาธิไปสนใจสิ่งรอบข้างหรือ?

3. เพิ่มความเสี่ยงต่ออายุการใช้งานของล้อรถเข็น

น้ำไม่เพียงแต่เป็นอุปสรรคสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าหรือเครื่องจักรอุตสาหกรรมเท่านั้น ยังส่งผลเสียต่ออายุการใช้งานและคุณภาพของล้อรถเข็นที่ใช้งานด้วย เนื่องด้วยล้อรถเข็นนั้นสามารถเข็นคล่องและลื่นได้เพราะภายในมีสารหล่อลื่นทำให้ตลับลูกปืน, รางลูกปืนหรือแม้แต่ในรุ่นที่เป็นแกนโลหะติดกับล้อเลยสามารถหมุนได้โดยไม่มีการติดขัดซึ่งทำให้การเข็นเป็นไปอย่างราบรื่น อีกทั้งโดยส่วนมากแล้วล้อรถเข็นนั้นมักมีส่วนประกอบของเหล็กหรือโลหะอื่นๆที่ประกอบเข้ากันเป็นตัวล้อและขาล้อ ในกรณีนี้น้ำจะเข้ามาชะล้างสารหล่อลื่นที่อยู่ภายในทำให้การหมุนของอุปกรณ์เหล่านั้นเกิดความติดขัด อีกทั้งน้ำยังทำให้เหล็กและโลหะที่มีเหล็กเป็นส่วนผสมเป็นสนิมได้ซึ่งทำให้การหมุนของอุปกรณ์ภายในมีความติดขัดและอายุการใช้งานของล้อรถเข็นรถลง

ผมจึงอยากแนะนำ 4 วิธีการในการดูแลรักษาล้อรถเข็น ให้สามารถใช้งานได้ยาวนาน

1. ตรวจเช็คสภาพพื้น

ล้อรถเข็นจะแล่นได้ดีหรือไม่นั้นโดยส่วนใหญ่แล้วขึ้นอยู่กับสภาพของพื้นที่จะแล่นผ่านว่าหากมีเศษวัสดุหรือสภาพที่ไม่เหมาะสมต่อการแล่น เช่น เป็นหลุมเป็นบ่อ, มีของเหลวเจิ่งนอง ก็ควรจะมีการเก็บกวาดวัสดุหรือทำความสะอาดพื้นที่นั้นให้มีสภาพที่สามารถเข็นได้ เพราะวัสดุหรือสิ่งของบางอย่างนั้นอาจเป็นของมีคมซึ่งทำความเสียหายให้ผิวล้อร่อนและหลุดออกมา หรืออาจเข้าไปติดในร่องหรือเนื้อล้อซึ่งทำให้การเข็นสะดุด มีปัญหา ซึ่งจุดนี้นับว่าส่งผลเสียต่อทั้งต่อล้อเองและเพิ่มความเสี่ยงให้กับของที่เราเข็นด้วย

2. เช็คสารหล่อลื่น

ล้อรถเข็นพอถูกใช้งานไปสารหล่อลื่นที่มีจะค่อยๆลดลงและจะส่งผลให้การเข็นนั้นฝืด, เลี้ยวลำบากและบางกรณีอาจเกิดการติดขัด ทำให้เข็นไม่ไปซึ่งเป็นเรื่องปกติ หากแต่ถ้าเราหมั่นตรวจสอบล้อรถเข็นที่เรามีและเติมสารหล่อลื่นเป็นประจำ จะเป็นการเพิ่มอายุการใช้งานของล้อให้ยาวนานขึ้นได้ ซึ่งเป็นผลดีเพราะช่วยในการประหยัดค่าใช้จ่ายจากล้อรถเข็นสิ้นสภาพก่อนอายุ อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มความปลอดภัยและความสบายในขณะเข็นทรัพย์สินมีค่าอีกด้วย

3. ตรวจเช็คสภาพล้อ

ล้อรถเข็นใช้งานไปย่อมมีการเสื่อมคุณภาพเช่นเดียวกับอุปกรณ์อื่นๆ การทำความสะอาดและดูแลรักษาล้อรถเข็นเป็นประจำจะช่วยให้เราสามารถตรวจพบล้อรถเข็นที่มีปัญหาตั้งแต่เนิ่นๆ อีกทั้งยังช่วยยืดอายุการใช้งานโดยรวมของรถเข็นและล้ออื่นๆที่ไม่มีปัญหาอีกด้วย ในรถเข็นคันนั้นด้วย เพราะหากล้อใดล้อหนึ่งมีปัญหาเนื่องจากยางเสื่อมหรือแป้นที่ยึดล้อหลวมหรือหลุด การรับและกระจายน้ำหนักของล้อนั้นก็จะแย่ลงจนทำให้ล้อเสียหนึ่งล้อเป็นภาระไปสู่ล้อดีๆที่เหลืออยู่ ดังนั้นการใช้รถเข็นแต่เพียงอย่างเดียวโดยที่ไม่ได้หมั่นตรวจสอบสภาพล้อหากล้อใดล้อหนึ่งมีปัญหา จะทำให้ล้ออื่นๆมีอายุการใช้งานที่สั้นลงเข้าไปด้วย

4. ใช้ล้อรถเข็นรุ่นที่ไม่เป็นสนิมซึ่งสามารถทนทานต่อสภาพเปียกชื้นได้ 

ล้อรถเข็นโดยส่วนใหญ่แล้วจะมีเหล็กเป็นส่วนประกอบหลัก ซึ่งจุดนี้ทำให้อุปกรณ์ไม่เหมาะที่จะใช้ในสภาวะที่ชื้นแฉะดังเช่นที่เกิดขึ้นในฤดูฝนเช่นนี้ แต่มีล้อรถเข็นจำพวกหนึ่งที่สามารถทนต่อสภาพเปียกชื้นนี้ได้ แม้ว่าจะไม่ได้ถูกออกมาเพื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ตลอด (ล้อทนน้ำไม่ใช่ว่าจะสามารถเอาไปแล่นใต้น้ำได้) แต่ก็มีความทนทานต่อสภาพเปียกแฉะมากกว่าล้อรถเข็นธรรมดาทั่วไป โดยล้อรถเข็นประเภทนี้ส่วนใหญ่มักจะมีโลหะที่เป็นสแตนเลส (ไม่เป็นสนิม) หรือเป็น ล้อรถเข็นที่เคลือบด้วยสีพ่นอุตสาหกรรม และมีดุมล้อที่เป็นพลาสติก เพราะสีพ่นอุตสาหกรรมจะทำให้โลหะนั้นไม่ได้สัมผัสกับน้ำเลยไม่เกิดสนิม รวมทั้งพลาสติกไม่เกิดสนิมเช่นกัน โดยล้อรถเข็นแบบหลังนี้จะมีราคาที่ถูกกว่าแบบแรก

รถเข็นและล้อรถเข็น ก็เหมือนกับรถยนต์ที่ต้องการการดูแลเอาใจใส่, การซ่อมแซมและความระมัดระวังในการใช้ ผมก็หวังว่าทุกท่านจะสามารถใช้ล้อรถเข็นอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภ้ยทั้งของที่เข็น, ตัวรถเข็นเองและคนที่เข็นครับ

จัดทำโดย: โรงงานแสงชัยการยางและจักรกล จำกัด
วันที่เผยแพร่: 17/6/2557
Close Menu